ชุดดีเอ็นเอควบคุมสำหรับตรวจหายีนเบต้าโกลบินและแอลฟาโกลบิน

ยื่นจดอนุสิทธิบัตร/สิทธิบัตร: ชุดดีเอ็นเอควบคุมสำหรับตรวจหายีนเบต้าโกลบิน เลขที่คำขอ 1901002978
ยื่นจดอนุสิทธิบัตร/สิทธิบัตร: ชุดดีเอ็นเอควบคุมสำหรับตรวจหายีนแอลฟาโกลบิน เลขที่คำขอ 1901002979
การตรวจหาชนิดการกลายพันธุ์ของธาลัสซีเมียต้องอาศัยเทคนิคทางโมเลกุลระดับดีเอ็นเอ เพื่อให้มี ความมั่นใจในประสิทธิภาพและผลการตรวจวิเคราะห์มีความถูกต้อง จะต้องมีการควบคุมคุณภาพ โดยจะทำ การทดสอบร่วมกับตัวอย่างดีเอ็นเอควบคุมคุณภาพ (control DNA) ที่ทราบชนิดการกลายพันธุ์ ชุดดีเอ็นเอ- ควบคุมสำหรับตรวจหายีนเบต้าโกลบินและแอลฟาโกลบินที่พัฒนาขึ้น ช่วยให้การตรวจหาชนิดการกลายพันธุ์ ธาลัสซีเมียมีประสิทธิภาพ ช่วยลดความผิดพลาด เพิ่มความแม่นยำ และความถูกต้องในการตรวจวินิจฉัย นอกจากนี้ชุดดีเอ็นเอควบคุมคุณภาพที่ประดิษฐ์ขึ้นสามารถถูกเพิ่มปริมาณได้อย่างไม่จำกัดและมีสภาพ คงทนไม่เสื่อมสภาพเร็ว ทำให้ลดปัญหาข้อจำกัดของปริมาณและการเสื่อมสภาพเร็ว

รูปที่ 1 แสดงผลการตรวจหาชนิดการกลายพันธุ์ของโรคเบต้าธาลัสซีเมียด้วยวิธี reverse dot-blot hybridization (RDB) โดยใช้ดีเอ็นเอควบคุณภาพแบบปกติ (N) สำหรับเป็นตัวอย่างควบคุมที่ไม่มีการกลายพันธุ์ของยีนเบต้าโกลบิน และใช้ดีเอ็นเอ ควบคุมคุณภาพแบบการกลายพันธุ์ชนิด M1, M2 และ M3 สำหรับเป็นตัวอย่างควบคุมที่มีการกลายพันธุ์ของยีนเบต้าโกลบิน ที่พบบ่อย ในประเทศไทยทั้ง 10 ชนิด

รูปที่ 2 แสดงผลการตรวจหาชนิดการกลายพันธุ์ของโรคแอลฟาธาลัสซีเมียด้วยวิธี multiplex GAP-PCR โดยใช้ดีเอ็นเอ ควบคุมคุณภาพบ่งชี้ยีนแอลฟาปกติ และที่มีการกลายพันธุ์ทั้งแอลฟาธาลัสซีเมีย 1 และ 2 ที่พบบ่อย ในประเทศไทยทั้ง 4 ชนิด โดยทดสอบควบคู่กับตัวอย่างดีเอ็นจากสิ่งส่งตรวจ

Loading

Scroll to Top
Institute of Molecular Biosciences
Privacy Overview

This website uses cookies so that we can provide you with the best user experience possible. Cookie information is stored in your browser and performs functions such as recognising you when you return to our website and helping our team to understand which sections of the website you find most interesting and useful.